Search

Talvar (2015) สามารถดูได้ใน Netflix

• เ...

  • Share this:

Talvar (2015) สามารถดูได้ใน Netflix

• เกือบ ๆ จะเป็นแนวราโชมอนของคดีที่ยังหาความจริงไม่ได้ หนังเล่าการสืบสวนคดีฆาตกรรมจากหลายมุมมอง ทั้งพ่อแม่เหยื่อที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย, กลุ่มเพื่อนคนรับใช้, และการโต้แย้งของตำรวจ
• หนังสร้างจากเรื่องจริงของคดีฆาตกรรมเด็กสาววัย 13 ปี และคนขับรถของครอบครัว ซึ่งหนังฉายปี 2015 เลยไม่ทันคำพิพากษาของศาลฎีกาในปี 2017 ที่ให้พ่อแม่เหยื่อพ้นผิดเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ แต่พอมองในแง่นี้ก็ถือว่าคำโต้แย้งในหนังมีน้ำหนักสูงเหมือนกัน
• ถึงอย่างไรก็ตาม หนังก็ฉายภายชัดเจนถึงความบกพร่องของตำรวจท้องที่ในการเก็บหลักฐาน จนทำให้การทำงานเชิงนิติวิทยาศาสตร์เป็นไปไม่ได้ และคำให้การวกไปวนมาภายในองค์กรสืบสวนก็ยิ่งทำให้คดีที่คลุมเครือกลายเป็นคดีที่ล้มเหลวในการหาตัวผู้กระทำผิด
• สื่อแรก ๆ ที่นำเสนอข่าวมีผลต่อการรับรู้ของประชาชนมาก เพราะความจริงยังไม่ปรากฏด้วยซ้ำแต่กล่าวโทษพ่อแม่เหยื่อไปแล้ว โดยประเด็นที่นำเสนอคือมีการฆาตกรรมในห้องลูกสาวจะไม่ได้ยินเสียงผิดปกติได้อย่างไร ซึ่งตำรวจสืบสวนก็มาทดลองจับเสียงเดซิเบลแล้วพบว่าแอร์ในห้องดังพอจะกลบเสียงคนร้องเพลงอีกห้องได้จริง
• อินเดียเป็นประเทศเดียวหรือเปล่าที่ใช้ Narco-interrogation (ฉีดยาให้ใกล้หมดสติแล้วสอบปากคำ) เราสงสัยผลลัพธ์ว่ามีความแม่นยำน่าเชื่อถือแค่ไหน เพราะถ้าอ้างอิงจากการใช้ Narco คือแก๊งเพื่อนคนขับรถยอมรับสารภาพผิด และพยานหลักฐานก็มีความเป็นไปได้สูงกว่าฝั่งพ่อแม่ แต่ก็ดันเป็นหลักฐานที่ศาลไม่ยอมรับ (และข้อมูลจากนาร์โคก็ไม่ตรงตามจริงด้วย)
• ไม่ว่าสาธารณชนจะมีมุมมองต่อคดีนี้อย่างไร หนังทำได้ดีในแง่การนำเสนอความเป็นไปได้ทั้งสองมุมมอง และโต้แย้งด้วยข้อมูลที่มีน้ำหนัก ซึ่งตำรวจยึดหลัก "ปล่อยคนผิด 10 คน ยังดีกว่าลงโทษคนบริสุทธิ์ 1 คน" เพราะข้อมูลทั้งหมดมันไม่เพียงพอจะเอาผิดใครจริง ๆ
• ดูหนังจบควรไปอ่านคดีจริงในวิกิต่อ

-------------------------------------

เกิดคดีฆาตกรรมทุบศีรษะและปาดคอเด็กสาววัย 13 ปี เสียชีวิตในห้องนอน ตำรวจท้องถิ่นนำสืบครั้งแรกพุ่งเป้าไปที่คนขับรถของครอบครัวตามคำกล่าวอ้างของพ่อแม่เหยื่อ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้นชาวบ้านก็พบศพคนขับรถบนดาดฟ้าของตึก ซึ่งเป็นจุดที่ตำรวจท้องถิ่นไม่ยอมพังกุญแจขึ้นไปตรวจดู แถมยังไม่เก็บหลักฐานรอยนิ้วมือในที่เกิดเหตุ จนทำให้ขั้นตอนสืบสวนของตำรวจสืบสวนกลางเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยหลักฐานของตำรวจกลางชุดแรกเชื่อว่าฆาตกรคือแก๊งเพื่อนคนขับรถ ส่วนตำรวจชุดสองเชื่อว่าพ่อแม่ของเหยื่อคือฆาตกร ซึ่งทั้งหมดก็มานั่งถกเถียงคุยหักล้างกันในตอนท้าย โดยมีบทสรุปได้ว่าหลักฐานจากตำรวจทั้งสองฝั่งไม่เพียงพอจะเอาผิดใครทั้งสิ้น
.
ด้วยความที่คดีมีความน่าจะเป็นได้หลายทาง การที่ผู้กำกับและคนเขียนบทกำหนดทิศทางของหนังเป็นแนวราโชมอนจึงเป็นแนวทางที่เรามองว่าเหมาะสม หนังเลือกนำเสนอเรื่องราวจากทั้งสองมุมมองผู้ต้องสงสัย คือพ่อแม่เหยื่อ และฝั่งเพื่อนคนขับรถที่ตาย ก่อนจะโต้แย้งด้วยการสืบสวนของตำรวจ ถึงแม้หนังจะให้น้ำหนักมาทางแก้ต่างให้ฝั่งพ่อแม่เหยื่อไม่ใช่ฆาตกร แต่ก็ไม่ถึงขั้นเจาะจงว่าฝั่งเพื่อนคนขับรถเป็นฆาตกร
.
พอดูความเป็นไปได้ของคดี เหยื่อผู้หญิงถูกตีเข้าศีรษะด้านหน้า ส่วนผู้ชายถูกตีเข้าด้านหลัง แถมยังพบศพคนละจุดโดยแทบไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ามีการเคลื่อนย้ายศพ ข้อกล่าวหาของตำรวจชุดสองที่เชื่อว่าพ่อแม่เหยื่อเป็นฆาตกรจึงตกไปแทบทั้งหมด ทั้งอาวุธเกิดเหตุคือไม้กอล์ฟที่วางอยู่คนละห้อง เป็นไปไม่ได้ที่การบันดาลโทสะจะวิ่งไปหยิบไม้กอล์ฟแล้วค่อยกลับมาฟาดผู้ตาย แถมยังฟาดเข้าข้างหลังในท่าที่ผู้ตายนอนคว่ำเหมือนเดิม และการเคลื่อนย้ายศพรูปร่างใหญ่ที่มีแผลและเลือด ก็ยากที่จะกระทำการโดยพ่อแม่เหยื่อ
.
อย่างไรก็ตามในขั้นตอนสืบสวนก็มีความน่าสงสัยในการเข้าห้องนอนผู้ตาย เพราะประตูไม่มีร่องรอยงัดแงะ และปกติห้องนอนจะล็อคเองอัตโนมัติเมื่อปิด โดยปกติกุญแจจะเก็บไว้ที่ห้องนอนของคนเป็นแม่ แต่วันเกิดเหตุกุญแจดันถูกพบนอกห้องนอน ซึ่งคนเป็นแม่ก็ผ่านทั้งเครื่องจับเท็จและการทดสอบนาร์โคเรียบร้อย ความเป็นไปได้อีกทางจึงเป็นว่าเธอลืมกุญแจไว้นอกห้องนอนตัวเองจริง ๆ และคนร้ายคือแก๊งเพื่อนคนขับรถมาเจอจึงใช้ไขเข้าไปก่อเหตุ
.
นอกจากนี้อีกจุดที่หนังนำเสนอคือประตูบ้านซึ่งถูกล็อคจากข้างนอก แม้การสืบสวนของตำรวจทีมสองจะกล่าวหาว่าพ่อแม่เหยื่อสามารถเข้าออกจากประตูเล็กที่มีตู้เย็นขวางอยู่มาสร้างสถานการณ์ให้ดูเหมือนคนร้ายเป็นคนนอก และแม่บ้านที่มาทำงานในเช้าวันพบศพก็เป็นพยานอย่างดีว่าประตูถูกล็อคจากข้างนอกจริง แต่ตำรวจชุดแรกก็ใช้ข้อมูลว่ากุญแจบ้านมีสองชุด ชุดหนึ่งอยู่กับครอบครัวแต่อีกชุดอยู่กับคนขับรถ จึงมีความเป็นไปได้ที่คนร้ายจะเป็นเพื่อนของคนขับรถเหมือนกัน
.
อย่างไรก็ตามฝั่งแก๊งเพื่อนคนขับรถก็มีข้อโต้แย้งพอสมควร โดยเฉพาะประเด็น Narco-interrogation ที่ศาลไม่ยอมรับ ซึ่งภายหลังมีคลิปหลุดออกมาแบบโดนตัดบางส่วน เป็นไปได้ว่าจะมีการถามชี้นำให้รับสารภาพ รวมถึงมีการซ้อมผู้ต้องสงสัยให้รับสารภาพด้วย พฤติกรรมหลายอย่างของแก๊งเพื่อนคนขับรถก็ไม่มีทีท่าจะหลบหนีแม้มีหนึ่งในสมาชิกโดนจับตัวไปสอบสวน และไม่มีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มายืนยันว่าพวกเขาอยู่ในบ้านผู้ตายอีกด้วย
.
จากการอ่านข้อมูลคดีจริง เราเลยชื่นชมหนังในการเก็บรายละเอียดสำคัญมาสร้างข้อมูลโต้แย้งแบบไม่ตัดสิน ปล่อยให้คนดูคิดเอาเอง ทั้งขวดเหล้ากลางโต๊ะอาหารที่มีรอยเลือด, เร้าเตอร์ที่มีการติด ๆ ดับ ๆ ระหว่างคืนนั้น, โทรศัพท์มือถือของเด็กสาวที่ปิดเครื่องเร็วผิดปกติ และพอโทรเข้าบ้านก็ไม่มีคนรับสาย, รวมถึงแรงจูงใจต่าง ๆ ก็มีความเป็นไปได้หลายทางมากน้อยแตกต่างกันไป และถ้าพูดกันตามตรงจากข้อมูลสืบสวนชุดแรก ๆ พ่อแม่ของเหยื่อก็มีพฤติกรรมชวนสงสัยหลายอย่างจริง ทั้งการรีบเผาศพ/ทำความสะอาดที่เกิดเหตุ/เรื่องลับระหว่างสามีภรรยาที่ผู้ตายอาจรู้เข้า แม้จะมีข้อโต้เถียงภายหลังว่าทั้งหมดตำรวจอนุญาตให้เผาและทำความสะอาดก็ตาม
.
โดยรวมแล้ว Talvar จึงเป็นหนังที่อาศัยข้อเท็จจริงมาเรียบเรียงนำเสนอและโต้แย้งได้อย่างมีน้ำหนัก ที่สุดแล้วปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความล้มเหลวในการไขคดีเริ่มต้นมาจากความบกพร่องของตำรวจท้องถิ่น จนทำให้การสืบสวนในขั้นตอนต่อมาเป็นไปอย่างยากลำบาก จนกลายเป็นคดีปริศนาที่ไม่สามารถระบุตัวฆาตกรได้จนถึงทุกวันนี้

Director: Meghna Gulzar
screenplay: Vishal Bhardwaj

Genre: crime, drama, mystery
7.5/10


Tags:

About author
ผมมีความฝันอยากเห็นคนไทยได้รู้จักหนังหลากหลายกว่าเดิม ผมจึงสร้างเพจ 'หนังโปรดของข้าพเจ้า' ด้วยความเชื่อที่ว่าทุกคนอยากแนะนำหนังโปรดของตัวเอง โดยเคารพความแตกต่างของรสนิยมทุกคน เพราะหนังโปรดของเรา อาจไม่ใช่หนังโปรดของเขา ยินดีต้อนรับคนรักหนังทุกท่านนะครับ :)
"หนังโปรดของเรา อาจจะไม่ใช่หนังโปรดของเขา" ยินดีที่ได้แนะนำหนังผ่านการเขียนรีวิว
View all posts